ข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย
การศึกษาทางด้านชาติพันธุ์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในด้านชาติพันธุ์สภาวะ (Ethnicity) เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยชี้ให้เห็นคุณสมบัติทางชาติพันธุ์ที่กลุ่มสังคมต่างๆ พยายามค้นหาและอธิบายสถานะตัวตนทางสังคมของตน คำอธิบายดังกล่าวเกิดขึ้นโดยมีเงื่อนไขของบริบทเป็นองค์ประกอบสำคัญ บริบทต่างๆ เหล่านั้นมีผลต่อการสร้างคำอธิบายตัวตนและฐานะทางชาติพันธุ์ทั้งจากมุมมองของคนนอกและคนใน
ช่วงเวลาที่ผ่านมาในอดีตโดยเฉพาะในช่วงสมัยอาณานิคม (colonial period) ทฤษฎีวิวัฒนาการมนุษย์และวิวัฒนาการสังคมได้ครอบงำความรู้ทางชาติพันธุ์ด้วยแนวคิดเรื่องเชื้อชาติ (race) จนเกิดความคิดเรื่องเชื้อชาตินิยม (racism) อันส่งผลอย่างรุนแรงต่อความขัดแย้งทางสังคมในระดับโลก นักมานุษยวิทยาได้พยายามตั้งข้อเสนอให้ใช้คำว่ากลุ่มชาติพันธุ์ (ethnic group) แทนคำว่าเชื้อชาติ ทำให้เริ่มมีการใช้คำว่าชาติพันธุ์อธิบายกลุ่มสังคมอย่างกว้างขวางขึ้นนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 เป็นต้นมา
ความคิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นต่อมาในช่วงสมัยหลังอาณานิคม (post-colonial period) ซึ่งเป็นเวลาที่รัฐสมัยใหม่ได้เติบโตและมีบทบาทขึ้นมาก ทำให้รัฐมีอิทธิพลสำคัญต่อคำอธิบายทางชาติพันธุ์ของคนแต่ละกลุ่มเพื่อการสร้างองค์ประกอบของความเป็นพลเมืองที่แตกต่างกันไป ความคิดที่่ให้ความสำคัญต่อลักษณะสังคมแบบพหุวัฒนธรรม (multiculturalism) ความคิดว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน (human rights) อันมีผลต่อประเด็นสิทธิทางวัฒนธรรม สิทธิทางชาติพันธุ์ ไปจนถึงความคิดว่าด้วยชนพื้นถิ่นดั้งเดิม (indigenousness) ความคิดเหล่านี้ต่างก็ส่งผลต่อความเคลื่อนไหวและการสร้างคำอธิบายทางชาติพันธุ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในกรณีของประเทศไทยเองรัฐได้มีการจัดตั้งสำนักกิจการชาติพันธุ์สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมีหน้าที่หลักเพื่อการยุติการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบต่อเชื้อชาติ สีผิว เชื้อสาย หรือกำเนิดทางชาติหรือชาติพันธุ์ พร้อมๆ ไปกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมสร้างความรู้และความเป็นธรรมทางสังคม
จากสภาวะปัจจุบันที่สังคมมีการเปลี่ยนผ่านมาสู่บริบทที่เรียกกันว่าโลกาภิวัฒน์ ซึ่งเกิดขึ้นและดำเนินร่วมไปกับลักษณะของกระบวนการทางเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมใหม่ ได้ส่งผลและมีอิทธิพลต่อความเคลื่อนไหวและความเปลี่ยนแปลงทางสังคมในด้านต่างๆ อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังประกอบด้วยมิติความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อน และแน่นอนว่ามีผลกระทบต่อปรากฏการณ์ทางด้านชาติพันธุ์สภาวะของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) จึงได้จัดทำฐานข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย ขึ้นตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2541 มีการแนะนำกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งสิ้น 36 กลุ่ม โดยมีการจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามตระกูลภาษา 5 ตระกูล คือ กลุ่มตระกูลภาษาไท-กะได กลุ่มตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก กลุ่มตระกูลภาษาจีน-ทิเบต กลุ่มตระกูลภาษาออสโตรเนเชี่ยน กลุ่มตระกูลภาษาม้ง-เมี่ยน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกลุ่มชาติพันธุ์ซึ่งมีความหลากหลายมากขึ้น และมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตามบริบททางสังคม เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศไทย ซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก เมื่อไม่มีผู้รับผิดชอบปรับปรุงข้อมูลในฐานให้ทันสมัย จึงทำให้มีการยกเลิกการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว
จากการสรุปปัญหาเกี่ยวกับชื่อเรียกกลุ่มชาติพันธุ์ ของคณะทำงานฐานข้อมูลงานวิจัยทางชาติพันธุ์ในประเทศไทย ซึ่งมี ผศ.ดร.ฉวีวรรณ ประจวบเหมาะเป็นหัวหน้าโครงการ ได้เสนอในปี พ.ศ.2552 ให้ทำการปรับชื่อเรียกชาติพันธุ์ (Ethnonym) ตามที่คนในใช้เรียกตนเอง (Endonym หรือ Autonym) เพราะชื่อที่คนอื่นเรียก (exonym) มักจะมีนัยความหมายไปในทางเหยียดหยามและมีอคติ ทำให้กลุ่มที่ถูกเรียกด้วยชื่อเหล่านั้นไม่พึงพอใจ ดังนั้น ในปี 2558 ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) จึงทำการพัฒนาฐานข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศขึ้นใหม่ โดยแนะนำกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อที่กลุ่มเรียกตนเองหรือต้องการให้สังคมเรียก ตลอดจนค้นคว้าวิจัยให้มีเนื้อหาทันสมัย แสดงให้เห็นพลวัตและอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับบริบทและการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในปัจจุบัน โดยมุ่งหมายที่จะสื่อสารกับสาธารณะ ให้บุคคลทั่วไปมีความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางชาติพันธุ์และรู้จักวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์มากขึ้น
ข้อมูลทรัพยากร : ${cur_meta.name}
ดาวน์โหลด ไปสู่ทรัพยากรวันที่ปรับปรุงไฟล์/ลิงก์ข้อมูลใน catalog | ${cur_meta.last_modified} |
วันที่สร้างไฟล์/ลิงก์ข้อมูลใน catalog | ${cur_meta.created} |
รูปแบบของไฟล์ชุดข้อมูล | ${cur_meta.mimetype} |
รหัสทรัพยากรข้อมูล | ${cur_meta.id} |
รายละเอียด | ${cur_meta.ori.description} |
เงื่อนไขในการเข้าถึงข้อมูล | ${cur_meta.ori.resource_accessible_condition} |
หน่วยที่ย่อยที่สุดของการจัดเก็บข้อมูล | ${cur_meta.ori.resource_data_collect} |
${cur_meta.ori.resource_data_collect_other} | |
วันที่เริ่มต้นสร้าง | ${cur_meta.ori.resource_created_date} |
วันที่ปรับปรุงเนื้อหาข้อมูลล่าสุด | ${cur_meta.ori.resource_last_updated_date} |
ข้อมูลเพิ่มเติม
รหัสชุดข้อมูล | f4733b75-0ad0-4dad-badc-66dd09dee6c4 |
---|---|
กลุ่มชุดข้อมูล | ศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม |
แท็ค |
ชาติพันธุ์
ประเทศไทย
ศมส
|
ระดับในการเข้าถึงข้อมูล | สาธารณะ |
วันที่สร้าง metadata | 14 ธันวาคม 2563 |
วันที่ปรับปรุง metadata | 17 มีนาคม 2566 |
ประเภทชุดข้อมูล | ข้อมูลระเบียน |
ชื่อฝ่ายงานสำหรับติดต่อ | ผู้ดูแลระบบ |
อีเมลสำหรับติดต่อ | webmaster@sac.or.th |
วัตถุประสงค์ | ไม่ทราบ |
หน่วยความถี่ของการปรับปรุงข้อมูล | ไม่มีการปรับปรุงหลังจากการจัดเก็บข้อมูล |
ค่าความถี่ของการปรับปรุงข้อมูล (ความถี่น้อยที่สุด) | 1 |
ขอบเขตเชิงภูมิศาสตร์หรือเชิงพื้นที่ | ประเทศ |
แหล่งที่มา | ไม่ทราบ |
รูปแบบการเก็บข้อมูล | ไม่ทราบ |
หมวดหมู่ข้อมูลตามธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ | ข้อมูลสาธารณะ |
สัญญาอนุญาต | Creative Commons Attributions |
ภาษาที่ใช้ | ไทย |
ชุดข้อมูลที่มีคุณค่าสูง | ไม่แสดง |
ตัวอย่างการใช้ข้อมูล
ชุดข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน จากระบบบูรณาการข้อมูลการตายจากอุบัติเหตุทางถนน (3 ฐาน)
ข้อมูลการบูรณาการข้อมูลผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน (3 ฐาน) เป็นข้อมูลที่ใช้เป็นฐานอ้างอิงจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย...
ข้อมูลระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บ (Injury surveillance: IS)
ข้อมูล opendata ระบบสารสนเทศการเฝ้าระวังการบาดเจ็บ injury surveillance ขอบเขตการเผยแพร่ เฉพาะ RTI ข้อมูล 4 ปี ย้อนหลัง เริ่มตั้งแต่ ปี 62 - ปัจจุบัน อัปเดตทุก 3 เดือน...